การมีส่วนร่วมของประชาชนในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
การมีส่วนร่วมของประชาชน” หมายถึง กระบวนการซึ่งประชาชนหรือผู้มีส่วนได้เสียได้มีโอกาสแสดงทัศนะ แลกเปลี่ยนข้อมูลและแสดงความคิดเห็นเพื่อแสวงหาทางเลือก และการตัดสินใจต่างๆ เกี่ยวกับโครงการที่เหมาะสม ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงควรเข้าร่วมในกระบวนการนี้ตั้งแต่เริ่มแรก เพื่อให้เกิดความเข้าใจและการรับรู้การเรียนรู้ การปรับเปลี่ยนโครงการร่วมกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย
“การมีส่วนร่วมของประชาชนในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม” หมายถึงกระบวนการที่จัดให้มีขึ้นในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชน องค์กรพัฒนาเอกชน ตลอดจนหน่วยงานต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากโครงการ สามารถเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น นำเสนอข้อมูลข้อโต้แย้ง หรือข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการนั้น อันเป็นการสื่อสารสองทาง
ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
จากกระบวนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและบทบาทของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในแต่ละขั้นตอน สามารถแบ่งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในขั้นตอนการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ออกเป็น ๗ กลุ่ม ดังนี้
๑. ผู้ได้รับผลกระทบ ได้แก่“กลุ่มผู้เสียประโยชน์” เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโครงการในด้านลบ
ทั้งทางตรงและทางอ้อม“กลุ่มผู้ได้รับผลประโยชน์” เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโครงการในด้านบวกทั้งทางตรงและทางอ้อม
๒. ผู้ที่รับผิดชอบจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ได้แก่“เจ้าของโครงการ” ในที่นี้ อาจหมายถึงหน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจหรือภาคเอกชนที่เป็นผู้ดำเนินโครงการ ซึ่งรวมถึง กรณีการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน “ผู้จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย”ทั้งนี้ เจ้าของโครงการและผู้จัดทำรายงานฯ จะต้องดำเนินการร่วมกันในทุกขั้นตอนของการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
๓. ผู้ที่ทำหน้าที่พิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ได้แก่“สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)”ในฐานะฝ่ายเลขานุการของ คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) หรือหน่วยงานของรัฐตามที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) มอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่แทน“คชก.” และ/หรือ “กก.วล.”“ผู้ที่มีหน้าที่ตัดสินใจอนุมัติอนุญาตโครงการ” เช่น คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีและหน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจอนุญาตตามกฎหมาย
๔. หน่วยงานราชการในระดับต่างๆ ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมชลประทาน กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เป็นต้น
๕. องค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม องค์กรพัฒนาเอกชน สถาบันการศึกษา และนักวิชาการอิสระ
“องค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม” ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม หรือองค์กรชุมชนที่สนใจและทำงานด้านสิ่งแวดล้อม หรือองค์กรพัฒนาเอกชน หรือกลุ่มองค์กรต่างๆ ที่อยู่ในเขตพื้นที่หรือเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่“สถาบันการศึกษา” ในระดับอุดมศึกษาที่อยู่ภายในพื้นที่ศึกษา หรือบริเวณใกล้เคียง“นักวิชาการอิสระ” รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และนักวิชาการต่างๆ
๖. สื่อมวลชน ทั้งในระดับท้องถิ่นและส่วนกลาง ซึ่งมีบทบาทในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโครงการ ผลกระทบของโครงการและความก้าวหน้าในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
๗. ประชาชนทั่วไป ที่สนใจและมีความต้องการเข้ามามีส่วนร่วม
หลักเกณฑ์การจัดการมีส่วนร่วมของประชาชน ทั้งในกรณีโครงการที่ต้องทำรายงานIEE EIA และ EHIA ได้มีการกำหนดเกณฑ์ขั้นตํ่าเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติโดยจะต้องยึดหลักการให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด โดยในการจัดกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียต้องดำเนินการโดยผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน ทั้งนี้ สรุปแนวทางการจัดการมีส่วนร่วมของประชาชน ทั้งในกรณีโครงการที่ต้องทำรายงาน IEE EIA และ EHIA ดังนี้
ตารางสรุปแนวทางการจัดการมีส่วนร่วมของประชาชน
| รายงาน | จำนวนครั้ง
(อย่างน้อย) |
การรับฟัง
ความคิดเห็น |
วัตถุประสงค์ |
| IEE | 1 ครั้ง | ครั้งที่ 1 ในระหว่าง
จัดทำรายงาน |
– เปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเห็นในประเด็นที่เป็นข้อห่วงกังวล
– นำผลที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นระบุไว้ในรายงานฯ รวมทั้งนำมาประกอบการพิจารณากำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม |
| EIA | 2 ครั้ง | ครั้งที่ 1การรับฟังความคิดเห็นต่อร่างข้อเสนอโครงการรายละเอียดโครงการขอบเขตการศึกษาและการประเมินทางเลือกโครงการ | – เพื่อให้ข้อมูลกับประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับรายละเอียดโครงการที่จะเกิดขึ้นและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งขอบเขตการศึกษา และการประเมินทางเลือกโครงการ
– เพื่อนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากการรับฟังความคิดเห็นมาใช้ประกอบการศึกษา และการจัดทำรายงานฯ ให้ครบถ้วน |
| ครั้งที่ 2การรับฟังความคิดเห็น
ต่อการจัดทำร่างรายงานและมาตรการป้องกันและแก้ไข ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม |
เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจในรายงานฯและมาตรการฯ ทั้งนี้ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นให้นำมาปรับปรุงรายงานฯ และมาตรการฯและจะต้องผนวกไว้เป็นส่วนหนึ่งของรายงานฯ | ||
| EHIA | 3 ครั้ง | ครั้งที่ 1 จัดเวทีรับฟัง
ความคิดเห็นเพื่อกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม |
– เพื่อให้ข้อมูลกับประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับรายละเอียดโครงการที่จะเกิดขึ้นและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งขอบเขตการศึกษาและการประเมินทางเลือก
– เพื่อนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากการรับฟังความคิดเห็นมาใช้ประกอบการศึกษา และการจัดทำรายงานฯ ให้ครบถ้วน |
| ครั้งที่ 2การจัดรับฟังความคิดเห็นในขั้นตอนการประเมินและจัดทำรายงานฯ | – เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมและการรับฟังความคิดเห็นและข้อห่วงกังวลของกลุ่มเป้าหมายหลักอย่างรอบด้าน | ||
| ครั้งที่ 3จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อทบทวนร่างรายงานฯและมาตรการฯ | – เพื่อให้ประชาชนผู้มีส่วนได้เสีย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบความถูกต้อง และความครบถ้วนสมบูรณ์ของร่างรายงานฯ
– เพื่อนำเสนอข้อมูล ข้อเท็จจริง และข้อคิดเห็นเพิ่มเติม ต่อร่างรายงานฯดังกล่าว – นำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นให้นำมาปรับปรุงร่างรายงานฯ และมาตรการฯและจะต้องผนวกไว้เป็นส่วนหนึ่งของรายงานฯ |
วิธีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
อาจใช้วิธีการอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างดังต่อไปนี้
1) การสำรวจความคิดเห็น
1.1 การสัมภาษณ์รายบุคคล
1.2 การเปิดให้แสดงความคิดเห็นทางไปรษณีย์ ทางโทรศัพท์หรือโทรสารทางระบบเครือข่ายสารสนเทศ หรือทางอื่นใด
1.3 การเปิดโอกาสให้ประชาชนมารับข้อมูลและแสดงความคิดเห็นต่อหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบโครงการ
1.4 การสนทนากลุ่มย่อย
2) การประชุมหารือ
2.1 การประชาพิจารณ์
2.2 การอภิปรายสาธารณะ
2.3 การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
2.4 การประชุมเชิงปฏิบัติการ
2.5 การประชุมระดับตัวแทนของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้เสีย
3) วิธีการอื่นที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีกำหนด
ในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ควรให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมโดยจะต้องให้ข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และรวบรวมประเด็นข้อคิดเห็นและความเป็นห่วงใยของประชาชน นำมาประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และพิจารณาว่าโครงการจะสามารถตอบสนองหรือแก้ไขปัญหาที่ประชาชนเป็นห่วงได้อย่างไร พร้อมทั้งเสนอมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม ทั้งนี้ ในการนำเสนอข้อมูล ผู้ที่รับผิดชอบจัดทำรายงานฯ จะต้องแสดงรายละเอียดอย่างน้อยที่สุด ดังนี้
- ขอบเขตพื้นที่ศึกษา โดยเน้นพื้นที่อ่อนไหว เช่น ศาสนสถาน โรงเรียนสถานที่ราชการ อุทยานแห่งชาติ ค่ายทหาร สถานฑูต รวมถึงชุมชนตามทิศทางลมชุมชนที่เก็บตัวอย่างด้านสิ่งแวดล้อม ชุมชนจุดที่มีมลพิษสูงสุด เป็นต้น
- การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย และการแบ่งกลุ่มชุมชนตามพื้นที่ศึกษา
- การกำหนดจำนวนตัวอย่างในแต่ละชุมชนตามพื้นที่ศึกษาของโครงการโดยให้แสดงสูตรหรือวิธีการคำนวณให้เป็นไปตามระเบียบวิธีวิจัยทางด้านสังคมศาสตร์และให้อธิบายวิธีการคัดเลือกจำนวนตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าทุกหน่วยประชากรมีโอกาสในการได้เข้ามามีส่วนร่วมของประชาชนอย่างเท่าเทียมกันและไม่มีอคติ
- การสำรวจความคิดเห็น ควรมีรายละเอียดอย่างน้อย ประกอบด้วย ข้อมูลทั่วไปของผู้ให้สัมภาษณ์ โครงสร้างของครัวเรือน (กรณีเป็นผู้นำชุมชน ให้มีข้อมูลโครงสร้างทางเศรษฐกิจ สังคมของชุมชน) และสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันผู้ที่รับผิดชอบจัดทำรายงานฯ จะต้องนำเสนอข้อมูลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่ได้ดำเนินการมาทั้งหมด รวมทั้งแผนการดำเนินงานในอนาคต เสนอไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ รายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินงาน เช่น เทคนิค วิธีการ วัน เวลา สถานที่ ผู้เข้าร่วม เป็นต้น ให้เสนอไว้ในภาคผนวกของรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ที่มา แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม กองพัฒนาระบบการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม